webแท่งบอลออนไลน์ ที่ดีที่สุด ฝากขั้นต่ำ 50 มาแล้วครับ เวป แทงบอลออนไลน์เปิดบริการตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีอันตราย และ ตามมาตรฐาน สามารถยอมรับ ทั่วโลก 9 ไอดี เล่นได้ทุกสิ่งทุกอย่าง การเงินมั่นคงจ่ายหนักจ่ายจริงฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ websiteตรงไม่ผ่านเอเยนต์แทงบอลสเต็ปบาคาร่าออนไลน์คืนค่าคอมสูงสุด เว็บแทงบอลออนไลน์copa 28% คาสิโนออนไลน์ได้เงินจริงบาคาร่าออนไลน์ทำกำไรให้ได้สมัครง่ายไม่ยุ่งยากหลายเกมส์ให้ร่วมบันเทิงใจคาสิโนออนไลน์ที่ใหญ่และนิยมที่สุดในไทย ทำรายการถอน ภายในเวลา 5 นาที รองรับโทรศัพท์มือถือ android และ ios เปิดมานานกว่า 10 ปี ให้บริการแทงบอลออนไลน์คาสิโนออนไลน์ ไก่ชน หวยมาเลย์มั่นคงได้เงินจริง
พรีเมียร์ลีกสะเด่ามาก???
การทำศึกแข้งพรีเมียร์ลีก 2019-20 พึ่งจะผ่านไปเพียงแค่ 2 นัดหมายเพียงแค่นั้นครับผม แต่ขอบอกว่าอัตราความเมามายมันอัดซ้ำๆแบบเต็ม 80,000 ตีนถีบกันอย่างยิ่งจริงๆ
ผู้ชมโทรทัศน์อย่างผมจึงรู้สึกว่าบางครั้งซีซั่นนี้การขับต้มกันในทุกภาคส่วนคงจะมีความสนุกสนานร่าเริง ตื่นเต้น แล้วก็จั๊กแหล่นมากขึ้น ดีไม่ดีอาจมากกว่าฤดูที่แล้วด้วย
เหตุผลสำคัญอย่างหนึ่งคือแต่ละกลุ่มย้ำเกมรุกกันเยอะขึ้นด้วยไม่ค่อยมีกุนซือสายเกมรับอยู่ในสนามรบแข้งแห่งนี้สักเท่าไหร่ ซึ่งวิธีการเล่นที่
มากด้วยแท็คติก เพื่อเน้นย้ำผลการแข่งขันนี่แหละทำให้บอลออกมาน่าเบื่อ หรือไม่เพลิดเพลินซักเท่าไหร่
ว่าแล้วอยากให้มองที่ปรึกษาของกลุ่มระดับ "บิ๊กซิ๊กซ์" แห่งพรีเมียร์ลีกเป็นตัวอย่าง
แมนฯ ซิตี้ - เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
หงส์แดง - เจอร์เก้น คล็อปป์
สเปอร์ส - เมาริซิโอ โปเช็ตว่ากล่าวโน่
อาร์เซน่อล - อูไน i99bet เอเมอรี่
แมนฯ ยูไนเต็ด - โอเล่ กุนทุ่งนาร์ โซลชา
รวมทั้งเชลซี - แฟร้งค์ แลมพาร์ด
พินิจได้ว่าไม่มีที่ปรึกษาสายเกมรับที่ชอบย้ำผลจากการแข่งขันแบบค่ะๆเลยสักคน ต่างจากช่วง 5-6 ปีให้หลัง ซึ่งพรีเมียร์ลีกอุดมด้วยผู้จัดการทีมจำพวกโชเฟอร์รถบัสอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ - หฝ่าส์ ฟาน กัล - ราฟาเอล เบนิเตซ - อันโตนิโอ คอนเต้ แล้วก็โดยไม่เว้นแม้กระทั้ง เคลาดิโอ รานิเอรี่ ที่เสกให้ เลสเตอร์ สิตี้ เป็นแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษอย่างน่าพิศวงด้วยวิธีการเล่นที่เน้นเกมรับมากกว่าเกมรุก
เท่านั้นยังไม่พอกลุ่มขนาดกลางอย่าง เลสเตอร์ - เอฟเวอร์ตัน - วูล์ฟส์ หรือทีมสมาชิกใหม่อย่าง นอริช ก็สามารถฟาดฟันกับทีมที่สมรรถนะสูงขึ้นมากยิ่งกว่าตนเองได้อย่างถึงใจพระเดชพระคุณมากกว่าเดิม
ย้อนเวลากลับไปในสมัยที่ผมเริ่มหมกมุ่นอยู่กับบอลอังกฤษใหม่ๆในสมัยแปดศูนย์
สมัยนู้นไม่มีถ่ายทอดสดทางทีวีและตู้เย็นครับ คนบ้าบอลชนิดพันธุ์แท้ที่มีปริมาณจำกัดต้องติดตามเชียร์ทีมรักของตนจากการอ่านในนิตยสาร "สตาร์ซอคเก้อร์" รายสัปดาห์ ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้จินตนาการค่อนข้างสูงส่ง
บอลอังกฤษยุคโน้นยังไม่ค่อยมากด้วยเหลี่ยมเลห์กลและก็กลยุทธอะไรเยอะแยะเหมือนปัจจุบันนี้ โดยแต่ละทีมจะเปิดเกมรุกแลกหมัดกันแบบให้ตายหงส์ตายห่านกันไปข้าง หากแม้ตระกูลจะต่างกันก็ตาม ผลที่ออกมาคือการยิงกันแบบลั่นหน้าจอ สปีดเกมเร็วทันใจดุจสายฟ้าผ่าหัวสุนัขพลางเสียบสกัดเอาจริงเอาจังและร้ายแรงแบบภูผาถล่มทลายดุจดังดูหนังแอคชั่นมันส์ระเบิดที่แสดงนำโดย สมบัติ เมทะนี + สรพงษ์ ชาตรี โดยมี โลก ภู่ภิญโญ เป็นตัวร้าย
เหตุเพราะยุคนู้น กุนซือคนต่างชาติยังไม่หลั่งไหลเข้ามาทำมาหากินในเมืองหลวงลูกหนังสักเท่าไหร่ ขณะกุนซือ เมด อิน ยูเค ส่วนใหญ่ต่างถือมั่นในปรัชญาของตนเป็นหลักแล้วคิดแผนให้ผู้ร่วมทีมลงเล่นตามสไตล์ที่ตัวเองเชี่ยวชาญ
วิมเบิลดัน ในสมัย 80 เป็นหนึ่งในแบบอย่างที่แจ่มแจ้ง
พวกเขาเป็นกลุ่มเล็กๆที่ตะเกียกตะกายขึ้นมาจาก ดิวิชั่น 4 (ลีก ทู ในปัจจุบัน) คุณภาพผู้เล่นไม่ได้สูงศักดิ์อะไรมากมาย แต่ไม่ได้เน้นย้ำเกมรับ และอุดประตู โดยอาศัยวิธีการเล่นแบบ วิ่ง-สู้-ฟัด รวมทั้งกัดไม่ปล่อยบนความหนักหน่วง
แต่ก่อน วิมเบิลดัน ใช้วิธีการเล่นแบบโยนยาวในระบบ 4-2-4 คือมีแผงข้างหลัง 4 ตัวตามเดิมนี่แหละ วางกองกลางกึ่งกลางแค่ 2 คนเพียงพอ เอาไว้ไล่เตะคู่ปรับและก็ทำลายเกมสิ่งเดียว โดยไม่จำเป็นต้องมีเพลย์เมคเกอร์คอยประดิษฐ์ ขณะที่ปีกทั้ง 2 ข้างดันขึ้นสูงเล่นเกมรุกเต็มกำลังส่งเสริมหัวหอก 2 คน ที่รูปร่างสูงใหญ่แล้วก็ชำนาญการเหาะเหินเดินอากาศ
เวลาฟูลแบ็คได้บอลในดินแดนตนเองก็จะหลับหูหลับตาโยนยาวไปข้างหน้าในทันที ไม่มีการต่อบอลทำชิ่งอะไรให้เสียเวล่ำเวลาจนได้รับสมญาว่า "เครซี่แก๊ง" หรือ "ทีมจอมโหด" ในภาคภาษาไทย
เมื่อไปสู่ยุค 90's ที่เริ่มมีการถ่ายทอดสดให้มองเยอะขึ้นเรื่อยๆจากการเกิดของเคเบิ้ลทีวี - เกมฟาดหน้าแข้งในอังกฤษก็ยังคงสนุกสนาน แล้วก็กะซวกไส้ดีนักแลจนกว่าเข้าสู่ยุคมิลเลนเนี่ยม (2000's) นี่แหละ
เหลี่ยมอุบายรวมทั้งกลยุทธถูกประยุกต์ใช้มากขึ้นเรื่อยๆ ภายหลังจากสมาพันธ์ในอังกฤษได้เล่นในบอลยุโรปเยอะขึ้น
ขนาดผู้จัดการทีมยุคอนาล็อกอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังจำต้องปรับแท็คติกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้เข้ากับยุคสมัยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยป๋าเอ็งจัดเป็นผู้จัดการทีมคนแรกๆของพรีเมียร์ลีกที่กล้าปฏิวัติตนเองด้วยการปรับระบบการเล่นจาก 4-4-2 แบบเก่าแก่แล้วก็เริ่มแรกมาเป็น 4-5-1 ก่อนที่จะมันจะพัฒนาการมาเป็น 4-2-3-1 หรือ 4-3-3 ในปัจจุบัน ด้วยให้ความสำคัญกับการครองบอลในดินแดนกึ่งกลาง และก็ย้ำผลที่เกิดจากการแข่งขันมากเพิ่มขึ้น หลังไปได้รับบทเรียนราคาแพงมาจากเกมหนึ่งในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ต่อเมื่อมีการนำเข้าผู้จัดการทีมฟุตบอลคนต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ
เฉพาะอย่างยิ่งกุนซืออย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ นี่แหละตัวการ ความเพลิดเพลินของเกมฟาดแข้งในฟุตบอลอังกฤษก็เลยเริ่มลดน้อยลงด้วยต้นแบบการเล่นที่รัดกุมรวมทั้งไม่มีอันตรายไว้ก่อน ไม่เปิดหน้าแลกกันแบบคนใดกันดีใครกันแน่อยู่เหมือนเก่า แม้กระนั้นก็เข้าใจครับผมว่ามันเป็นไปตามยุคสมัย
นอกจากนั้นสภาพสนามก็มีส่วนสำคัญอย่างที่สุด
เกาะมหาทรัพย์สมบัติขึ้นชื่อลือชาเรื่องฝนตกชุกอยู่แล้ว อดีตสมัยสนามฟุตบอลในอังกฤษจึงชื้นแฉะรวมทั้งเจิ่งท่วมไปด้วยน้องน้ำ ก่อนปรับปรุงตัวเองเปลี่ยนเป็นโคลนตม บังคับให้ดูเหมือนจะทุกกลุ่มต้องเล่นบอลโยนยาว แบบที่พากย์อังกฤษว่า "ฮิต แอนด์ โฮป" เนื่องเพราะสภาพสนามไม่อำนวยให้ต่อบอลทำชิ่งบนฟลอร์ต้นหญ้าสักเท่าไหร่
แล้ว...ขอโทษ
สนามยิ่งเละ มันก็ยิ่งไถล แล้วนักเตะยิ่งพุ่งเข้าแทงพลางสไลด์กันกระทั่งน้ำกระจัดกระจาย
ลองนึกถึงครับผมว่าถ้าเกิดสภาพสนามยังคงเป็นอย่างนั้น บอลที่สวยงามอย่าง อาร์เซน่อล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ หรือ แมนฯ ซิตี้ จากรูปแบบการทำงานของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะเล่นกันอย่างไร ???
บัดเดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วนะครับไอ้ภาวะสนามปลักควายแบบงั้น เนื่องจากว่าด้วยเทคโนโลยีที่เจริญช่วยทำให้แต่ละสังเวียนหน้าแข้งมีความนำสมัย ด้านล่างสนามฝังเครื่องที่ใช้สำหรับในการทำความร้อนไว้ละลายเกร็ดน้ำแข็ง พื้นสนามต้นหญ้าก็มีความลาดเอียงน้อยเหมือนหลังเต่าช่วยระบายน้ำออกอย่างรวดเร็ว และไม่ขังถึงขนาดทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ครองแชมป์ "หญ้าสวย" เป็นอย่างมากใหญ่เลยทีเดียว
เหนือสิ่งอื่นใดคือ "ของเล่นเด็กใหม่" อย่าง VAR ที่เว้นแต่เข้ามาเพื่อเพิ่มความโปร่งสบายใสให้พรีเมียร์ลีกแล้วยังเพิ่มความดราม่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นกกระจอกกระทั่งถึงไม่ทันกินน้ำ เทคโนโลยีช่วยผู้ตัดสินที่กองหน้าของ แมนฯ ซิตี้ อย่าง กาเบรียล เชซุส พึ่งรจนาชื่อให้มันเสียใหม่ว่า "ฟัคกิ้ง วีเออาร์" ก็อาละวาดเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อมันบรรจงยึดความมีชัยมาจากทีมเรือใบสีฟ้าอย่างเหี้ยมหาญยิ่งนัก
มันคลาสสิกตรงที่แชมป์เก่าอย่าง แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูชัยในช่วงทดเจ็บที่กำลังจะเด๊ดห่าอยู่รอมร่อ ก่อนชอบใจอย่างเต็มที่บ้าไปแล้ว แถม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับ กุน อเกวโร่ ยังกอดกันแนบแน่นจนเกือบจะแหกดากส์มาดอมดม ข้างหลังทั้งคู่มีปากเสียงกันในระหว่างเกม
สุดท้ายกลับมีการหักมุมซ้อนหักมุมอย่างหนัก เมื่อ VAR บอกว่าประตูชัยของ แมนฯ ซิตี้ มีที่มาจากการแฮนด์บอลของฝ่ายรุกเสียก่อน
แล้วโต้แย้งอะไรมิได้ด้วยนะครับ เนื่องจากกฏใหม่กำหนดไว้อย่างแจ่มแจ้งอยู่แลวว่าถ้าหากบอลโดนมือหรือแขนของฝ่ายรุกในเขตโทษนับว่าเป็นแฮนด์บอลทุกกรณี
สเปอร์ส จึงรอดพ้นจากความตายด้วยประการฉะนี้
เรียนตามตรงว่าผู้ติดตามรายการที่มีลักษณะอาการด้านจิตนิดหน่อยอย่างผมถูกใจมากมายครับ ไอ้ "VAR" ห่าเหวอะหวะไรเนี่ย
สำหรับผม ความถูกต้องแบบไม้บรรทัดยังต้องยกมือขึ้นไหว้ของมันทำลายเสน่ห์ของเกมลูกหนังก็จริง แต่เวลาเดียวกันมันกลับช่วยทำให้เกมลูกหนังมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีกต้นแบบหนึ่ง ซึ่งเหมาะกับแฟนบอลที่มีลักษณะด้านจิต แลที่สำคัญ บางโอกาสมันอาจแปลงเป็นตัวบ่งชี้ว่ากลุ่มใดจะได้แชมป์พรีเมียร์ลีกในช่วงฤดูกาลนี้...ก็...เป็น...ได้
การค้นหาที่เกี่ยวข้องกับ เว็บไซต์พนันบอล
เว็บ บอล แจก เครดิต ฟรี ล่าสุด เว็บบอลแจกเครดิตฟรีไม่ต้องฝาก เว็บพนัน ดีที่สุด pantip เว็บพนันบอล m88 เว็บพนันบอล ดีที่สุด 2018 เว็บพนันบอล ถูกกฎหมาย เว็บพนันบอล ดีที่สุด pantip vegus168 live